การเทรดตามอารมณ์

การเทรดตามอารมณ์อาจเป็นหนึ่งในศัพท์ทั่วไปในโลกแห่งการเทรด อย่างไรก็ตามศัพท์คำนี้หมายความตามนั้นจริงๆ โดย

หมายความถึงพฤติกรรมของมนุษย์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากตลาดมีความผันผวน จนก่อให้เกิดการใช้ความรู้สึกมากกว่าอาศัยข้อมูลที่

สมเหตุสมผลในการดำเนินการเทรด พฤติกรรมเช่นนี้เรียกอีกอย่างว่า การลงทุนตามอารมณ์ การเทรดตามอารมณ์มักมีลักษณะเป็นความรู้สึกเชิงลบ อย่างเช่น

ความรู้สึกตื่นตระหนก, ความวิตกกังวล, ความโลภ, ความเครียด และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงความทะนงตนหรือความหุนหันพลันแล่นด้วย ดังนั้นการตระหนักรู้เท่าทันอารมณ์เหล่านี้อย่างลึกซึ้งรวมถึงตระหนักรู้ถึงผลกระทบของอารมณ์เหล่านี้ต่อการตัดสินใจเทรดจึงถือเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องเงินทุนของเทรดเดอร์

องค์ประกอบสำคัญสำหรับแนวคิดการเทรดตามอารมณ์คือ ความพยายามที่จะเข้าใจอารมณ์ต่างๆ ที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุน

ประสบเกี่ยวกับเงิน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงวิธีที่อารมณ์เหล่านี้ขับเคลื่อนการตัดสินใจทางการเงินเพื่อจัดการรับมือกับความท้าทายที่ไม่อาจ

คือเราไม่เพียงแต่จะต้องพิจารณาโดยละเอียดถึงอิทธิพลของอารมณ์เชิงลบที่มีต่อผลลัพธ์การเทรดเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงอารมณ์ความรู้สึกเชิงบวกด้วย ทั้งนี้เพราะว่าท้ายที่สุด

แล้วไม่ว่าอารมณ์จะเป็นไปในเชิงบวกหรือลบ ความรู้สึกอิ่มเอมใจทั้งหลายก็อาจส่งผลให้ตัดสินใจได้ไม่ดีพอๆ กับความรู้สึกโกรธหรือความรู้สึกหดหู่นั่นเอง

แล้วสิ่งที่เทรดเดอร์หรือผู้ประกอบวิชาชีพทางการเงินอื่นๆ ควรต้องคำนึงถึงมีอะไร

บ้าง ประการแรกเลยก็คือคุณควรตระหนักรู้ว่าคุณกำลังเกิดความรู้สึกแบบใดแบบหนึ่งอยู่ จากนั้นให้เริ่มดำเนินการจัดการรับมือ

กับอารมณ์เหล่านั้นให้ดี ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าความรู้สึกต่างๆ นั้นหยั่งรากลึกในอคติ ซึ่งอาจบดบังการตัดสินใจด้วยเหตุผลได้อย่างรวดเร็ว ในบริบทของการเทรดตามอารมณ์นั้นหมายความถึงอคติต่างๆ อย่างเช่น:

การบรรเทาผลกระทบจากการเทรดตามอารมณ์

เทคนิคที่เทรดเดอร์สามารถนำมาใช้เพื่อจำกัดผลกระทบจากอารมณ์ขณะที่ดำเนินการเทรดนั้นมีอยู่มากมายหลายประการ ประการแรกคือ

การลงทุนเวลาในการสร้างแผนการเทรดที่มีระเบียบวินัยโดยอิงจากการวิเคราะห์และข้อมูลเป็นสำคัญ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจเทรดนั้นมีพื้นฐานมาจากข้อมูลจริงมากกว่าที่จะ

เป็นการตอบสนองแบบฉับพลันต่อการเคลื่อนไหวของตลาด เทคนิคต่อมาคือให้ใช้แผนดังกล่าวควบคู่กับเครื่องมือบริหารความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์เพื่อปกป้องสถานะการเทรดของคุณและจำกัดการสูญเสียเงินทุน สิ่งนี้มีความเกี่ยว

ข้องกันอย่างยิ่งหากใช้เลเวอเรจซึ่งมีศักยภาพในการขยายการขาดทุนแบบทวีคูณ ทั้งนี้ให้พิจารณาขนาดสถานะที่เหมาะสมและสอดคล้องกับงบประมาณของคุณและระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ นอกจากนี้แนวทางการกระจายความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงการยึดติดกับสินทรัพย์หรือการลงทุนประเภทใดประเภทหนึ่ง

มากเกินไปก็อาจเป็นประโยชน์เช่นกัน สุดท้ายสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจตลาดการเงินอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยต่างๆ ที่ขับเคลื่อนตลาดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (ไม่ว่าจะตลาดหมีหรือตลาดกระทิง)

แน่นอนว่าการเทรดโดยมิให้มีอารมณ์ใดๆ ก็ตามมาเกี่ยวข้องนั้นถือเป็นเรื่องยากมาก

ที่จะทำได้สำเร็จ เราต่างเป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตข้องเกี่ยวกับความรู้สึกในแต่ละวัน การขจัดอิทธิพลของอารมณ์ที่มีต่อกิจกรรม

ต่างๆ อย่างเช่นการเทรดนั้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามไม่กึ่งหนึ่งก็สามในสี่ของการต่อสู้นี้คือการตระหนักถึงปัจจัยที่ทำให้คุณเกิดการตอบสนองและอารมณ์ความรู้สึกจากการถูกกระตุ้น จากนั้นจึงใช้

มาตรการต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นต่อการเข้าหรือออกจากสถานะ ลองปฏิบัติตามเคล็ดลับที่เราได้กล่าวไว้ในที่นี้ แล้วนำมาผสานเข้ากับกลยุทธ์และแนวทางการเทรดโดยรวมของคุณเอง